การแพทย์แผนไทยเผย 4 ยาหอมที่ควรมีติดบ้าน นวโกฐ - ทิพโอสถ - เทพจิตร - อินทจักรยาหอมเป็นยาสามัญประจำบ้านแผนโบราณแบบผง ใช้ละลายน้ำดื่ม เพื่อปรับสมดุลธาตุในร่างกายคือ ธาตุลมและธาตุไฟให้เดินได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ติดขัด เปรียบเสมือนตัวหล่อลื่นให้เครื่องยนต์ทำงานได้สะดวก โดยสรรพคุณของยาหอมสามารถนำมาใช้ปรับสมดุลธาตุ บำรุงครรภ์ แก้ไข้ บำรุงร่างกาย บำรุงโลหิตประจำเดือน ช่วยปรับอารมณ์ และช่วยทำให้นอนหลับด้วย จึงเหมาะสำหรับกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานด้วย
โดยกรมการแพทย์แผนไทยแนะนำ ยาหอม 4 ชนิดที่ควรมีประจำบ้านคือ
1.ยาหอมนวโกฐ ช่วยป้องกันพิษไข้และช่วยร่างกายฟื้นตัวจากการป่วยไข้เร็วขึ้น โดยเมื่อเริ่มมีอาการต้นของไข้คือ ครั่นเนื้อครั่นตัว รุมๆ หากรับประทานยาหอมนวโกฐภายใน 24 ชั่วโมงก็จะช่วยป้องกันได้ หรือรับประทานหลังจากหายไข้ก็จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ทำให้ประหยัดสุขภาพ ไม่ต้องป่วย ประหยัดค่ายาและลดการใช้ยา ไม่ต้องอยู่โรงพยาบาลนานหรือใช้วันลามาก เหมาะสำหรับคนทำงานอย่างมาก
2.ยาหอมเทพจิตร เหมาะสำหรับวัยรุ่นที่มักชอบมีอาการสวิงสวาย หงุดหงิด โมโหง่าย ซึม ก็จะช่วยปรับอารมณ์ให้กลับมาเบิกบานได้ ก่อนที่อารมณ์จะตกลงไปถึงขั้นทำให้ร่างกายเป็นโรค หรือถึงขั้นซึมเศร้า เช่น บางคนอกหักรักคุด อารมณ์ก็ตกลงไป ช่วงจะสอบแล้วอ่านหนังสือไม่ได้ อ่านไม่เข้าหัวเลย ทำให้เครียด เมื่อรับประทานยาหอมเทพจิตรก็จะช่วยปรับอารมณ์ตรงนี้ขึ้นได้ เพราะทำให้เลือดลมเดินได้สะดวก
3.ยาหอมอินทจักร ช่วยให้ร่างกายที่อ่อนเพลียกลับมาสดชื่นแจ่มใสได้ ซึ่งต่างจากการรับประทานกาแฟหรือพวกคาเฟอีนต่างๆ ที่ออกฤทธิ์กระตุ้นร่างกาย ทำให้ตาค้าง แต่ร่างกายไม่ได้สดชื่น เมื่อหมดฤทธิ์ก็กลับมาเพลียเหมือนเดิมหรือเป็นมากกว่าเดิม แต่ยาหอมอินทจักรจะไปช่วยให้ลมในร่างกายไหลเวียนเป็นปกติ ปลุกไฟในร่างกายขึ้นมาตามธรรมชาติ จึงเป็นการออกฤทธิ์ที่ต่างกัน
4.ยาหอมทิพโอสถ ซึ่งนำมาใช้หลังป่วยไข้หวัดได้ดีมาก ลดอาการอ่อนเพลียหลังจากป่วยไข้หวัด สำหรับการรับประทานยาหอมนั้น ในกลุ่มวัยรุ่นวัยทำงานก็สามารถทานได้ 2-3 อาทิตย์ หรือ 1 เดือน หรือเมื่ออาการดีขึ้นแล้วก็หยุดการใช้ยา เพราะหากรับประทานมากไปก็จะมีผลกระทบ ยิ่งวัยรุ่นเป็นช่วงที่มีธาตุไฟมาก การรับประทานนานๆ ก็อาจไปกระตุ้นธาตุไฟทำให้เกิดการร้อนในได้ จนควรกินยาเมื่อร่างกายเริ่มไม่สมดุลและหยุดยาเมื่อร่างกายกลับมาสมดุลแล้ว